พระราชกรณียกิจด้านความสัมพันธ์กับต่างประเทศ
โดย ที่ พระ บาท สมเด็จ พระ เจ้า อยู่ หัว ทรง เป็น ประมุข ของ ประเทศ ได้ เสด็จ พระ ราช ดำ เนิน เยือน ประเทศ ต่างๆ หลาย ประเทศ ทั้ง ใน ทวีป เอเชีย ทวีป ยุโรป และ ทวีป อเมริกา เหนือ เพื่อ เป็น การ เจริญ ทาง พระราชไมตรี ระหว่าง ประเทศ ไทย กับ บรรดา มิตร ประเทศ เหล่า นั้น ที่ มี ความ สัมพันธ์ อัน ดี อยู่ แล้ว ให้ มี ความ สัมพันธ์ แน่นแฟ้น ยิ่ง ขึ้น ทรง นำ ความ ปรารถนา ดี ของ ประชาชน ชาวไทย ไป ยัง ประเทศ ต่างๆ นั้นด้วย ทำ ให้ ประเทศไทย เป็น ที่ รู้จัก กัน อย่าง กว้างไกล มากยิ่งขึ้น นับ ว่า เป็น ประ โยชน์ ต่อ ประเทศ ไทย อย่าง มหาศาล และ ประเทศ ต่างๆ ที่ เสด็จ พระราชดำเนิน ไป ทรง เจริญ ทาง พระราชไมตรี นั้น มี ดังนี้
- เวียดนาม
ใต้ ระหว่าง วัน ที่ ๑๘-๒๑ ธันวาคม ๒๕๐๒ ซึ่ง เป็น การ เสด็จ พระ ราชดำเนิน เยือน ต่างประเทศ ครั้งแรก ใน รัชกาล ปัจจุบัน - สาธารณรัฐ
อินโดนีเซีย ระหว่าง วัน ที่ ๘-๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๓ - สหภาพ
พม่า ระหว่าง วัน ที่ ๒-๕ มีนาคม ๒๕๐๓ - สหรัฐ
อเมริกา ระหว่าง วัน ที่ ๑๔ มิถุนายน - ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๐๓ - อังกฤษ ระหว่าง
วัน ที่ ๑๙-๒๓ กรกฎาคม ๒๕๐๓ - สหพันธ์
สาธารณรัฐ เยอรมัน ระหว่าง วันที่ ๒๕ กรกฎาคม - ๒ สิงหาคม ๒๕๐๓ - สาธารณรัฐ
โปรตุเกส ระหว่าง วันที่ ๒๒-๒๕ สิงหาคม ๒๕๐๓ - สวิตเซอร์แลนด์ ระหว่าง
วันที่ ๒ช-๓๑ สิงหาคม ๒๕๐๓ - เดนมาร์ก ระหว่าง
วันที่ ๖-๙ กันยายน ๒๕๐๓ - นอร์เวย์ ระหว่าง
วันที่ ๑๙-๒๑ กันยายน ๒๕๐๓ - สวีเดน ระหว่าง
วันที่ ๒๓-๒๕ กันยายน ๒๕๐๓ - สาธารณรัฐ
อิตาลี ระหว่าง วันที่ ๒๘ กันยายน - ๑ ตุลาคม ๒๕๐๓ - นครรัฐ
วาติกัน เมื่อ วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๐๓ - เบลเยี่ยม ระหว่าง
วันที่ ๔-๗ ตุลาคม ๒๕๐๓ - สาธารณรัฐ
ฝรั่งเศส ระหว่าง วันที่ ๑๑-๑๔ ตุลาคม ๒๕๐๓ - ลักเซมเบอร์ก ระหว่าง
วันที่ ๑๗-๑๙ ตุลาคม ๒๕๐๓ - เนเธอร์แลนด์ ระหว่าง
วันที่ ๒๔-๒๗ ตุลาคม ๒๕๐๓ - สเปน ระหว่าง
วันที่ ๓-๘ พฤศจิกายน ๒๕๐๓ - สาธารณรัฐอิสลาม
ปากีสถาน ระหว่าง วันที่ ๑๑-๒๒ มีนาคม ๒๕๐๕ - สหพันธรัฐมลา
ยา ระหว่าง วันที่ ๒๐-๒๗ มิถุนายน ๒๕๐๕ - นิวซีแลนด์ ระหว่าง
วันที่ ๑๘-๒๖ สิงหาคม ๒๕๐๕ - ออสเตรเลีย ระหว่าง
วันที่ ๒๖ สิงหาคม - ๑๒ กันยายน ๒๕๐๕ - ญี่ปุ่น ระหว่าง
วันที่ ๒๗ พฤษภาคม - ๕ มิถุนายน ๒๕๐๖ - สาธารณรัฐ
จีน ระหว่าง วันที่ ๕-๘ มิถุนายน ๒๕๐๖ - สาธารณรัฐ
ฟิลิปปินส์ ระหว่าง วันที่ ๙-๑๔ กรกฎาคม ๒๕๐๖ - สาธารณรัฐ
ออสเตรีย ระหว่าง วันที่ ๒๙ กันยายน - ๕ ธันวาคม ๒๕๐๗ - สาธารณรัฐ
เยอรมัน ระหว่าง วันที่ ๒๒-๒๘ สิงหาคม ๒๕๐๙ ซึ่ง เป็น การ เสด็จ พระ ราชดำเนิน เยือน ครั้ง ที่ สอง - สาธารณรัฐ
ออสเตรีย ระหว่าง วันที่ ๒๙ กันยายน - ๒ ตุลาคม ๒๕๐๙ ซึ่ง เป็น การ เสด็จ พระ ราชดำเนิน เยือน ครั้ง ที่ สอง - อิหร่าน ระหว่าง
วันที่ ๒๓-๓๐ เมษายน ๒๕๑๐ - สหรัฐอเมริกา ระหว่าง
วันที่ ๖-๒๐ มิถุนายน ๒๕๑๐ ซึ่ง เป็น การ เสด็จ พระ ราชดำเนิน เยือน ครั้ง ที่ สอง - แคนาดา ระหว่าง
วันที่ ๒๑-๒๔ มิถุนายน ๒๕๑๐ - สาธารณรัฐ
ประชาธิปไตย ประชาชน ลาว ระหว่าง วันที่ ๘-๙ เมษายน ๒๕๓๗
เมื่อ เสร็จ สิ้น การ เสด็จ พระ ราชดำเนิน เยือน ประเทศ ต่างๆ แล้ว ก็ ได้ ทรง ต้อน รับ พระ ราช อาคันตุกะ ที่ เป็น ประมุข ของ ประเทศ ต่างๆ ที่ เสด็จ และ เดินทาง มา เยือน ประเทศ ไทย เป็น การตอบแทน และ บรรดา พระ ราช อาคันตุกะ ทั้ง หลาย ต่าง ก็ ประทับ ใจ ใน พระ ราชวงศ์ ของ ไทย ตลอด จน ประชา ชน ชาว ไทย อย่าง ทั่ว หน้า
พระราชกรณียกิจ ด้าน การ ศึกษา
พระบาทสมเด็จ พระ เจ้าอยู่หัว ทรง ตระ หนัก ดี ว่า การ พัฒนา การ ศึกษา ของ เยาวชน นั้น เป็น พื้น ฐาน อัน สำคัญ ของ ประเทศ ชาติ จึง ทรง พระ กรุณา โปรดเกล้าฯ พระ ราชทาน พระ ราชทรัพย์ จัด ตั้งมูลนิธิ อานันทมหิดล ให้ เป็น ทุน สำหรับ การ ศึกษา ใน แขนง วิชา ต่างๆ เพื่อ ให้ นักศึกษา ได้ มี ทุน ออก ไป ศึกษา หา ความรู้ ต่อ ใน วิชา การ ชั้น สูง ใน ประเทศ ต่างๆ โดย ไม่ มี เงื่อน ไข ข้อ ผูกพัน แต่ ประการ ใด เพื่อ ที่ จะ ได้ นำ ความ รู้ นั้นๆ กลับ มา ใช้ พัฒนา ประเทศชาติ ให้ เจริญ ก้าวหน้า ต่อ ไป
นอก เหนือ ไป จาก นี้ แล้ว ทรง มี พระ ราชดำริ ให้ ดำเนิน การ จัด ทำสารานุกรม ไทย สำหรับ เยาวชนขึ้น สารานุกรม ชุด นี้ มี ลักษณะ พิเศษ ที่ แตก ต่าง จาก สารานุกรม ชุด อื่นๆ ที่ ได้ เคย จัด พิมพ์ มา แล้ว กล่าว คือ เป็น สารานุกรม อเนก ประสงค์ ที่ บรรจุ เรื่อง ราว ต่างๆ ที่ เป็น สาระ ไว้ ครบ ทุก แขนง วิชา โดย จัดแบ่ง เนื้อหา ของ แต่ละ เรื่อง ออกเป็น สาม ระดับ เพื่อ ที่ จะ ให้ เยาวชน แต่ ละ รุ่น ตลอด จน ผู้ ใหญ่ ที่ มี ความ สน ใจ สามารถ ที่ จะ ศึกษา ค้นคว้า หา ความ รู้ ได้ ตาม ความ เหมาะสม ของ พื้นฐาน ความรู้ ของ แต่ละ คน โดย มี วิทยากร ผู้ ทรง คุณวุฒิ ใน แต่ละ สาขา วิชา การ อุทิศ เวลา และ ความรู้ เพื่อ สนอง พระราชดำริ โดย ร่วมกัน เขียน เรื่อง ต่างๆ ขึ้น แบ่งออกเป็น 4 สาขา วิชา คือ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคมศาสตร์ และ มนุษยศาสตร์
ทรง ก่อ ตั้ง กองทุน นวฤกษ์ ใน มูลนิธิ ช่วย นัก เรียน ที่ ขาดแคลน ใน พระ บรม ราชูปถัมภ์ เพื่อ ช่วย ให้ นัก เรียน ที่ ขาดแคลน ทุนทรัพย์ ได้ มี โอกาส เข้ารับ การศึกษา ใน ระดับ ประถม ศึกษา และ ระดับ มัธยม ศึกษา ทั้ง ยัง พระ ราชทาน พระ ราชทรัพย์ ส่วน พระ องค์ เป็น ทุน ริเริ่ม ในการ ก่อสร้าง โรงเรียน ตาม วัด ใน ชนบท สำหรับ ที่ จะ สงเคราะห์ เด็ก ยากจน และ กำพร้า ให้ ได้ มี สถาน ที่ สำหรับ ศึกษา เล่าเรียน โดย อาราธนา พระภิกษุ เป็น ครู สอน ใน วิชา สามัญ ต่างๆ ที่ ไม่ ได้ ขัด ต่อ พระธรรมวินัย ตลอด จน ช่วย อบรม ศีลธรรม แก่ เด็ก นักเรียน ทั้ง นี้ เป็น พระ ราช ประสงค์ ที่ จะ ให้ เด็ก นักเรียน ได้ เกิด ความสัมพันธ์ ระหว่าง ศาสนา กับ การศึกษา ควบคู่ กันไป อัน จะ ทำ ให้ เยาวชน ของ ชาติ นอก จาก จะ มี ความ รู้ ด้าน วิชา การ แล้ว ยัง จะ ทำ ให้ มี จิต ใจ ที่ ดี ที่ ตั้ง มั่น อยู่ ใน ศีลธรรม เพื่อ ที่ จะ ได้ เป็น พลเมือง ดี ของ ประเทศชาติ ต่อไป ใน อนาคต
โรงเรียน ร่มเกล้า ก็ เป็น สถาน ศึกษา ใน ระดับ มัธยม ศึกษา ใน หลาย จังหวัด ที่ เกิด ขึ้น จาก พระ ราชดำริ ที่ จะ ให้ ทหาร ออก ไป ปฏิบัติ ภารกิจ ใน ท้องที่ ทุรกันดาร ได้ ทำ ประ โยชน์ ต่อ ชุมชน และ มี ส่วน ช่วยเหลือ ประชาชน ใน ด้าน การศึกษา ตาม โอกาส อัน ควร โดย พระราชทาน พระ ราชทรัพย์ ส่วน พระ องค์ ให้ ทหาร จัด สร้าง โรงเรียน ขึ้น ใน จังหวัด นครพนม จังหวัด สกลนคร จังหวัด นราธิวาส จังหวัด ปราจีนบุรี และ จังหวัด แม่ฮ่องสอน เป็นต้น เพื่อ ช่วย บรรเทา ปัญหา การ ขาดแคลน สถานศึกษา สำหรับ เยาวชน และ ยัง เป็น การ ส่งเสริม ความ เข้าใจ อัน ดี ระหว่าง เจ้าหน้าที่ ทหาร ที่ ไป ปฏิบัติ ภารกิจ ในพื้นที่ นั้นๆ กับราษฎร เจ้า ของ ท้อง ที่ อีก โสต หนึ่ง ด้วย ซึ่ง ใน การ ดำเนิน งาน จัด สร้าง โรงเรียน ทางฝ่าย ทหาร ได้ ติดต่อ ประสานงาน กับ เจ้าหน้าที่ ฝ่าย ปกครอง และ ฝ่าย ศึกษาธิการ เพื่อ เลือก สถานที่ ตั้ง โรงเรียน ที่ เหมาะสม กับ ความจำเป็น ที่สุด ซึ่ง ปรากฎว่า ราษฎร ใน ท้องที่ ที่ มี การ สร้าง โรงเรียน ได้ พา กัน ร่วม อุทิศ แรงกาย ช่วย ใน การ ก่อสร้าง ตลอดจน อุทิศ ทุนทรัพย์ สมทบ เป็น ทุน ในการ จัดซื้อ อุปกรณ์ ต่างๆ ที่ จะ นำ ไป ใช้ ใน การ ก่อสร้าง โรงเรียน เพื่อ เป็น การ โดย เสด็จ พระราชกุศล ด้วย และ เมื่อ การ ก่อ สร้าง โรงเรียน แล้ว เสร็จ พระ บาท สมเด็จ พระ เจ้า อยู่ หัว ได้ เสด็จ พระราชดำเนิน ไป ทรง เปิด โรงเรียน เหล่า นั้น พร้อม ทั้ง พระ ราชทาน นาม ว่า โรงเรียน ร่มเกล้า ซึ่ง ใน ปัจจุบัน มี ทั้ง โรงเรียน ระดับ ประถม ศึกษา และ ระดับ มัธยม ศึกษา
พระราชกรณียกิจด้านการแพทย์
ในการ
นอก จาก นั้น ยัง มี โครง การ ทันตกรรม พระ ราชทาน ซึ่ง เป็น พระ ราช ดำริ ที่ ให้ ทันตแพทย์ อาสาสมัคร ได้ เดิน ทาง ออก ไป ช่วยเหลือ บำบัด โรค เกี่ยวกับ ฟัน ตลอด จน สอน การ รักษา อนามัย ของ ปาก และ ฟัน แก่ เด็กนักเรียน และ ราษฎร ที่ อาศัย อยู่ ใน ท้องที่ ทุรกันดาร และ ห่าง ไกล จาก แพทย์ ทั่ว ทุก ภาค โดย ให้ การ บริการ รักษา โรค ฟัน โดย ไม่ คิด มูลค่าใน การ แพทย์ เคลื่อน ที่
สำหรับ การ เสด็จ พระราชดำเนิน ทรง เยี่ยม วัด ทุก แห่ง ซึ่ง นับ เป็น ศูนย์ กลาง ของ ชุมชน ใน ชนบท โดย จะ พระ ราชทาน กล่อง ยา แก่ วัด เพื่อ พระ ภิกษุ ใช้ เมื่อ เกิด อาพาธ และ เพื่อ แจกจ่าย แก่ ราษฎร ผู้ป่วย เจ็บ ใน หมู่บ้าน นั้นๆ ส่วน ใน การ เสด็จ พระราชดำเนิน ไป เยี่ยม หน่วย ทหาร ตำรวจ และ อาสาสมัคร ที่ ออก ไป ตั้ง ฐาน ปฏิบัติ การ ใน ท้อง ที่ ทุรกันดาร ก็ จะ พระ ราชทาน สิ่ง ของ ที่ จำ เป็น ต่างๆ รวม ทั้ง ยารักษาโรค สำหรับ ใช้ ใน หมู่ เจ้าหน้าที่ และ ใช้ ใน การ รักษา พยาบาล และ เพื่อ แจก จ่าย แก่ ราษฎร ใน ท้อง ที่ ที่ มา ขอ ความ ช่วย เหลือ อัน จะ ทำ ให้ เจ้าหน้าที่ ฝ่าย ปราบปราม และ ประชาชน ใน พื้น ที่ ปฏิบัติ การ ได้ มี ความ เข้า ใจ อัน ดี ต่อ กัน รู้ จัก ช่วย เหลือ ซึ่ง กัน และ กัน
ทางด้าน หน่วย แพทย์หลวง ที่ จะ ต้อง ตาม เสด็จ พระราชดำเนิน ไป ณ ที่ ประทับ แรม ทุก แห่งนั้น จะ มี เจ้าหน้าที่ ให้ การ รักษา พยาบาล ราษฎร ผู้ มา ขอ รับ การ รักษา ไม่ ต้อง เสีย ค่า ใช้ จ่าย แต่ ประการ ใด นอก จาก นั้น หน่วยแพทย์หลวง ยัง จัด เจ้าหน้าที่ ออก เดิน ทาง ไป รักษา ราษฎร ผู้ ป่วย เจ็บ ตาม หมู่ บ้าน ที่ อยู่ ห่าง ไกล ออก ไป อีก ด้วย โดย ได้ รับ ความ ร่วม มือ จาก เจ้าหน้าที่ ฝ่าย ปกครอง ซึ่ง เป็น ผู้ แนะ นำ สถานที่ และ ร่วม เดิน ทางไป ด้วย สำหรับ ราษฎร ผู้ เจ็บ ป่วย ราย ที่ มี อาการ หนัก หรือ จำเป็น ที่ จะ ต้อง ได้รับ การ ตรวจรักษา เพิ่มเติม นั้น ก็ จะ ทรง พระ กรุณา โปรดเกล้าฯ ให้ ข้า ราช บริพาร ที่ ตาม เสด็จ พระราชดำเนิน ทำ การ บันทึก ราย ชื่อ อาชีพ ที่ อยู่ และ อาการ โดย ละเอียด โดย ตรวจ สอบ ความ ถูก ต้อง กับ เจ้าหน้าที่ ฝ่าย ปกครอง และ มี สำเนา ให้ รับทราบ เพื่อ ติดต่อ ประสานงาน ต่อไป ใน การ พิจารณา ส่ง ผู้ ป่วย ไป รับ การ รักษา ต่อ ตาม ความ เห็น ของ แพทย์ ผู้ ทำ การ ตรวจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น